วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปานามากับจีน
ความสัมพันธ์แรกเริ่มของสองประเทศนี้มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิงแต่ส่วนใหญ่ความสัมพันธ์จะมาในรูปแบบการค้าขาย การให้ความช่วยเหลือเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อจีนเปลี่ยนระบอบการปกครองบวกกับปานามาเป็นประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแลของสหรัฐฯ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นได้ลดทอนลงไป เนื่องจากความแตกต่างของระบอบปกครอง และประกอบกับการที่สหรัฐฯและจีนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน ทำให้ปานามาต้องอยู่ฝ่ายสหรัฐอยู่แล้วเพราะสหรัฐเป็นผู้มีบทบาทเป็นอย่างมากในปานามา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น เงินทุน ทหาร โครงการขยายคลองต่างๆ อีกทั้งปานามากับสหรัฐฯมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากเกินกว่าที่จะตัดขาดได้เนื่องจากผลประโยชน์มหาศาลในสมัยนั้น แต่เมื่อปี ค.ศ.2017 จีนเริ่มเข้ามาขยายอิทธิหรือเริ่มมีบทบาทในแถบละตินอเมริกา เนื่องจากจีนได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของปานามาในการจะใช้ท่าเรือนี้เป็นฐานในการขนส่งสินค้าของตัวเองไปยังแถบละตินอเมริกาและทวีปอื่นๆ ดังนั้นจีนได้เข้ามาในปานามาเพื่อสถาปนาทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2017 และการที่ทั้งสองมีการจัดตั้งความสัมพันธ์ทางการทูตนั้นได้ส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับที่สูงขึ้นไปอีกระดับและเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยปานามาและจีนได้ทำสัญญาข้อตกลงทางการค้ากันมากถึง 47 ข้อ ซึ่งครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การค้าเสรีจนถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูง การขยายคลอง อีกทั้งจีนเป็นผู้ใช้คลองปานามาเป็นอันดับต้นๆและเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าชั้นนำไปยังเขตปลอดอากร Colón ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกาตั้งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของปานามา และในเดือนเมษายนมีการเปิดตัวเที่ยวบินตรงที่เชื่อมโยงปักกิ่งและปานามาซิตี้ทำให้ง่ายขึ้นสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ สิ่งเหล่านี้คือตัวแสดงที่สำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าจีนเริ่มเข้ามีบทบาทและอิทธิพลในปานามาและแถบละตินเอมริกามากขึ้น
ในปัจจุบันทั้งสองประเทศพยายามพัฒนาความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นมากกว่าเก่า โดยการที่เริ่มจากการค้าขายและการลงทุนในโครงการต่างๆของจีนนั้นเป็นตัวกระชับความสัมพันธ์ เนื่องจากปานามาเป็นประเทศที่ขาดเงินทุนและเทคโนโลยีจึงเป็นการง่ายที่จีนจะพยายามเข้ามามีบทบาทแทนสหรัฐฯ เพราะในปัจจุบันสหรัฐฯไม่ได้เข้ามายุ่งวุ่นวายกับแถบละตินอเมริกามากนักและปานามาเองต้องการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจตัวเองขึ้นไปอีก จึงได้หันไปหาจีน ซึ่งการหันไปหาจีนนั้น ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกัน คือ สามารถคานอำนาจและอิทธิพลของสหรัฐฯในปานามาและแถบละตินอเมริกาได้ อีกทั้งการที่สหรัฐฯละเลยประเทศในละตินอเมริกาทำให้จีนสามารถเข้าไปขยายอิทธิพลแทนสหรัฐฯได้ และการเข้าไปขยายอิทธิพลของจีนนั้นจะเป็นการขยายโดยใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจ เช่น การค้า การให้ความช่วยเหลือ การลงทุน หรือมาตรการทางการค้าต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งเครื่องมือนี้ถือเป็นเครื่องมือที่ง่ายดายและได้ประสบความสำเร็จที่สุด
ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองในปัจจุบันจึงเป็นการสร้างความร่วมมือในด้านการค้า การลงทุนให้แน่นแฟ้น มากขึ้นกว่าเดิม โดยความสัมพันธ์นี้เป็นแบบพึ่งพาอาศัยกัน การที่ทั้งสองพยายามกระชับความสัมพันธ์นั้น เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การขยายฐานการค้าของตนเองในโครงการ One Belt One Road อีกทั้งยังเป็นการถ่วงดุลอำนาจและอิทธิพลของสหรัฐฯในแถบละตินอเมริกาอีกด้วย และเป็นการดีที่จีนจะเข้าไปมีบทบาทและอิทธิพลแทนสหรัฐฯเนื่องจากสหรัฐฯนั้นได้ละเลยประเทศแถบละตินอเมริกาไป จึงทำให้จีนได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในแถบละตินอเมริกาและการที่ร่วมมือกับปานามานั้นยิ่งเพิ่มอำนาจทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย