วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปานามากับรัสเซีย
ความสัมพันธ์ระหว่างปานามาและสหภาพโซเวียตนั้นเริ่มแรกในปี 21 พฤศจิกายน ค.ศ.1903 คือการที่สหภาพโซเวียตนั้นได้ยอมรับเอกราชของปานามา จากนั้นก็ได้มีความสัมพันธ์ทางการค้า การทูต ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่หลังจากนั้นช่วงสงครามเย็น ปานามานั้นได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ ด้านทหาร จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพโซเวียตและปานามานั้นได้ยุติลง ต่อมาความสัมพันธ์ทางการทูตของปานามาและสหภาพโซเวียตได้กลับมาอีกครั้ง ในปี ค.ศ.1991 และปานามายอมรับความสัมพันธ์สหพันธรัฐรัสเซียในฐานะรัฐผู้สืบทอดต่อสหภาพโซเวียต เมื่อค.ศ.1992 แต่ความสัมพันธ์หลังจากสิ้นสุดสงครามเย็นเป็นต้นมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นความสัมพันธ์ทางด้านการค้า การลงทุน และเกี่ยวกับกฎหมายซะส่วนมาก และระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองนี้ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเท่าสหรัฐฯ อีกทั้งปริมาณในการค้าของทั้งสองยังอยู่ในระดับต่ำ
ดังนั้นในปัจจุบันทั้งสองประเทศพยายามที่จะสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นมากขึ้น โดยการที่เข้าไปลงทุนในปานามาในด้านต่างๆ เช่น อุตสาหกรรม พลังงาน ธนาคาร และ โลจิสติกต์ ความสัมพันธ์ในลักษณะนี้กับรัสเซียจะส่งผลดีต่อตัวปานามาเอง เนื่องจากสามารถเข้ามาช่วยคานอำนาจกับสหรัฐอเมริกาได้ เป็นการทำให้สหรัฐอเมริกานั้นไม่กล้าที่จะรุกรานปานามาอย่างเปิดเผยเกินไป เพราะหากปานามาหันไปหารัสเซีย จะส่งผลให้สหรัฐอเมริกาเสียผลประโยชน์ภายในภูมิภาคจากปานามา เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ.2019 ประธานาธิบดีปานามา Juan Carlos Valera ได้เดินทางไปรัสเซียเพื่อไปกระชับความสัมพันธ์ และยังได้มีการเจรจาในการดำเนินการเพื่อเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ เพื่อช่วยให้นักธุรกิจหรือองค์กรรัสเซียสะดวกสบายในการเข้ามาลงทุนหรือสร้างความร่วมมือต่างๆ อีกทั้งรัสเซียยังได้พยายามให้ปานามาเป็นศูนย์กลางของคลังสินค้าในการจัดเก็บสินค้าเพื่อส่งสินค้าไปตามประเทศต่างๆในแถบละตินอเมริกา
ความสัมพันธ์ของทั้งสองในปัจจุบันจึงเป็นการสร้างความร่วมมือในด้านการค้าให้พัฒนามากขึ้นกว่าเก่า มากกว่าที่จะเข้ามามีบทบาทในทางการเมืองหรือทางทหาร โดยทั้งสองใช้ทฤษฎีพึ่งพาอาศัยกันมากกว่า การที่ทั้งสองพยายามกระชับความสัมพันธ์นั้น เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การลงทุน การขยายฐานการค้าของตนเอง อีกทั้งยังเป็นการถ่วงดุลอำนาจของสหรัฐฯอีกด้วย และการที่สหรัฐฯมีนโยบายที่สนใจแต่ผลประโยชน์ของตนเอง ออกห่างจากประเทศในละตินอเมริกาไปบ้าง ทำให้รัสเซียเล็งเห็นทางที่จะเข้าไปมีบทบาทมากขึ้นในแถบละตินอเมริกา จึงเป็นการดีที่จะใช้ปานามาเป็นฐานในการขยายบทบาทของตนเองในแถบละตินอเมริกาและปานามาเองก็ได้ประโยชน์จากการค้าและการลงทุนของรัสเซียอีกด้วย